เวียดนาม เป็นอีกหนึ่งประเทศที่น่าจับตามอง ทั้งในด้านศักยภาพของตลาดแรงงาน การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจหรือ GDP ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง นักลงทุนไทยที่สนใจจะลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนาม สามารถลงทุนได้ผ่าน DR หรือลงทุนในกองทุนรวม ETF ซึ่งมีถึง 9 กองทุน

นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 นักลงทุนไทยเริ่มสนใจที่จะแสวงหาโอกาสสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งตลาดหุ้นเวียดนามก็ร้อนแรงที่สุดตลาดหนึ่งของโลกในปีที่ผ่านมา หลังดัชนีหลักอย่าง VN-INDEX ปรับเพิ่มขึ้นถึง 36% ในขณะที่มูลค่าหุ้นในเชิง P/E Ratio อยู่ที่ประมาณ 13 เท่า ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำ ยิ่งไปกว่านั้นช่วงต้นปี 2565 รัฐบาลเวียดนามเพิ่งอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่ากว่า 1.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นราว 4.3% ของ GDP นับว่ามีขนาดสูงหากเทียบกับกลุ่มประเทศในระดับเดียวกัน

 

ด้วยเหตุนี้ นอกจากการลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนามผ่าน DR (Depositary Receipt) หรือตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ โดย DR ตัวแรกและหนึ่งเดียวในตลาดหุ้นไทย คือ E1VFVN3001 ซึ่งอ้างอิงกับดัชนี VN30 ของเวียดนาม ยังมีกองทุนรวม ETF อื่น ๆ ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นเวียดนาม ถือเป็นทางเลือกในการลงทุนให้กับนักลงทุนไทย โดยมีทั้งหมด 9 ตัว หรือแบ่งตามกลุ่มดัชนีที่อ้างอิงได้ทั้งหมด 5 ดัชนี ดังนี้

 

1. VN30 เป็นดัชนีที่ประกอบไปด้วยหุ้นเวียดนามชั้นนำ 30 บริษัทแรกที่ถูกคัดเลือกด้วยเกณฑ์ต่าง ๆ ของตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์ โดยดัชนี VN30 มีมูลค่าตลาดกว่า 77% ของทั้งตลาด จึงมักถูกนำมาใช้เป็นตัวแทนของตลาดหุ้นเวียดนาม โดย ETF ที่อ้างอิงดัชนีนี้มีทั้งหมด 4 ตัว ซึ่งมีความคล้ายคลึงกัน โดย 1 ปีที่ผ่านมา (ข้อมูล ณ วันที่ 17 มกราคม 2565) สามารถสร้างผลตอบแทนได้ประมาณ 27%

อย่างไรก็ตาม ก่อนตัดสินใจลงทุน นักลงทุนควรศึกษาข้อมูล โดยเฉพาะความแตกต่าง เช่น มูลค่าทรัพย์สินภายใต้การจัดการ (AUM) สภาพคล่อง ค่าธรรมเนียมการจัดการ และ Tracking error เป็นต้น

E1VFVN30 จัดตั้งเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2557 โดย Dragon Capital VietFund Management (DCVFM) มี AUM ราว 453 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ราว 1.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นับว่าสูงที่สุดในจำนวน ETF ทั้ง 4 ตัว ขณะที่ค่าธรรมเนียมการจัดการอยู่ที่ 0.65% ต่อปี และยังเป็นหลักทรัพย์อ้างอิงของ DR E1VFVN3001 ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยอีกด้วย
FUESSV30 จัดตั้งเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2563 โดย SSI Asset Management มี AUM ราว 5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันราว 1 หมื่นเหรียญสหรัฐฯ ถือว่ายังไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนักเมื่อเทียบกับ ETF ตัวอื่น ๆ ในเวียดนาม โดยมีค่าธรรมเนียมการจัดการที่ 0.55% ต่อปี
FUEKIV30 จัดตั้งเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2564 โดยบริษัทสัญชาติเกาหลี KIM Vietnam Fund มี AUM ราว 3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ราว 3 แสนเหรียญสหรัฐฯ โดยมีค่าธรรมเนียมการจัดการที่ 0.55% ต่อปี
FUEMAV30 จัดตั้งเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2563 โดยบริษัทสัญชาติเกาหลีใต้ Mirae Asset Fund Management มี AUM ราว 30 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 8.6 หมื่นเหรียญสหรัฐฯ ขณะที่ค่าธรรมเนียมการจัดการอยู่ที่ 0.60% ต่อปี

2. Vietnam Diamond เป็นดัชนีที่มีเงื่อนไขว่าหุ้นที่เป็นส่วนประกอบจะต้องมีนักลงทุนต่างชาติถือหุ้นอย่างน้อย 95% ของสัดส่วนที่สามารถลงทุนได้ (ภาษานักลงทุนเรียกว่าเป็นหุ้นที่มี Foreign Room ใกล้เต็ม) ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาของนักลงทุนต่างชาติ (รวมถึงนักลงทุนไทย) ที่ต้องการลงทุนในหุ้นเวียดนาม โดยไม่ต้องซื้อหุ้นที่ราคาพรีเมี่ยมซึ่งแพงกว่าตลาดถึง 15 – 40%

ในปัจจุบันดัชนี Vietnam Diamond มีหุ้นเป็นส่วนประกอบทั้งหมด 18 ตัว โดย ETF ที่อ้างอิงดัชนีนี้มีอยู่ 1 ตัว ได้แก่ FUEVFVND หรือ Diamond ETF ที่นักลงทุนชาวไทยคุ้นเคยกันดี เริ่มจัดตั้งเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2563 โดย FUEVFVND มี AUM ราว 574 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ราว 1.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นับว่าสูงที่สุดในบรรดา ETF ทั้งหมดในตลาดหุ้นเวียดนาม ขณะที่ค่าธรรมเนียมการจัดการอยู่ที่ 0.80% ต่อปี โดยใน 1 ปีที่ผ่านมาสามารถสร้างผลตอบแทนไปกว่า 41% (ข้อมูล ณ 17 มกราคม 2565)

 

3. Vietnam Leading Financial เป็นดัชนีที่อ้างอิงกลุ่มธุรกิจการเงินในเวียดนาม ประกอบด้วยหุ้นธุรกิจการเงินอย่างน้อย 10 ตัว และจำกัดน้ำหนักหุ้นแต่ละตัวไม่เกิน 15% โดยในปัจจุบันมีหุ้นอยู่ทั้งหมด 19 ตัว โดย ETF ที่อ้างอิงดัชนีนี้มี 1 ตัว ได้แก่ FUESSVFL จัดตั้งเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2563 โดย SSI Asset Management มี AUM ราว 156 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ราว 3.6 แสนเหรียญสหรัฐฯ และค่าธรรมเนียมการจัดการอยู่ที่ 0.65% ต่อปี นับเป็น ETF กองแรกที่อิงรายกลุ่มอุตสาหกรรมในเวียดนาม

4. VNX50 เป็นดัชนีที่อ้างอิงหุ้นจดทะเบียนชั้นนำในเวียดนาม 50 ตัวแรกในตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์และตลาดหลักทรัพย์ฮานอย โดย ETF ที่อ้างอิงดัชนีนี้มีอยู่ 1 ตัว ได้แก่ FUESSV50 จัดตั้งเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2564 โดย SSI Asset Management มี AUM ราว 14 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ราว 2.3 หมื่นเหรียญสหรัฐฯ และค่าธรรมเนียมการจัดการอยู่ที่ 0.65% ต่อปี

 

5. VN100 เป็นดัชนีที่อ้างอิงหุ้นชั้นนำ 100 ตัวแรกในตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์ คิดเป็นมูลค่าตลาดเทียบเท่าราว 85% ของดัชนีหุ้นโฮจิมินห์ โดย ETF ที่อ้างอิงดัชนีนี้มีอยู่ 2 ตัว ได้แก่

 

FUEVN100 จัดตั้งเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2563 โดย VINACAPITAL มี AUM ราว 7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ราว 4.7 หมื่นเหรียญสหรัฐฯ และมีค่าธรรมเนียมการจัดการอยู่ที่ 0.67% ต่อปี
FUEIP100 จัดตั้งเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2564 โดย IPAAM มี AUM ราว 3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ราว 1.5 หมื่นเหรียญสหรัฐฯ และมีค่าธรรมเนียมการจัดการที่ 0.60% ต่อปี

กล่าวโดยสรุป จะเห็นว่าในช่วงที่ผ่านมาตลาดหุ้นเวียดนามมีพัฒนาการที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะในแง่ของจำนวนนักลงทุน ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน จำนวนบริษัทจดทะเบียน หรือทางเลือกในการกระจายลงทุนที่มีมากขึ้น อย่าง ETF ดังนั้น หากนักลงทุนต้องการกระจายการลงทุนไปในต่างประเทศ การลงทุนใน ETF ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ

อ้างอิงที่มา : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

โดย : รัฐศรัณย์ ธนไพศาลกิจ ผู้อำนวยการ ฝ่ายหลักทรัพย์ต่างประเทศและฟิวเจอร์ส บล.บัวหลวง

อ้างอิง
https://www.thansettakij.com/money_market